ภาพประวัติศาสตร์ : มหาจุฬาฯภูมิใจในตัวท่าน
..........................
เสียงเล่าลืออื้ออึงไปถึงฟ้
โอบาม่าเยือนนามสยามถิ่น
โจทย์โยมถึงพระก้องปฐพิน
สื่อได้ยินถึงชั้นสวรรค์ครื น
.......................... ......
เฝ้าเหนือหัวทัวร์อารามแวะถ ามรัฐ
ทานข้าวผัดปูนิ่มยิ้มระรื่น
บอกยิ่งรักประเทศไทยไม่อยาก คืน
แต่จำฝืนเข้าเมียนม่าร์ข้าม ฟ้าบิน
.......................... ..........
ภาพผู้นำโอบาม่าเข้าหาพระ
ฟังวาทะเอกสงฆ์คงถวิล
สำเนียงเหน่อถ้อยสุพรรณ..คร ั้นได้ยิน
หนุ่มผิวนิล..เยสรับ...ประท ับใจ
.......................... .............
เจ้าคุณพระสุธีธรรมานุวัตร
ท่านเจนจัดหลักธรรมนำสมัย
คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย
จารึกไว้ในประวัติบรรทัดทอง
.......................... ...........
เจ้าคุณเทียบเปรียบตัวแทนแค ว้นสยาม
รู้ในนามสังฆังชื่อดังก้อง
สง่างามเชตุพนคนเฝ้ามอง
โลกยกย่องสงฆ์สยามอร่ามเรือ ง
.......................... .........
คงเป็นบุญวาสนาโอบาม่า
ที่ได้มาแดนภิรมย์ร่มผ้าเหล ือง
มองเห็นยักษ์ข้างวัดคล้ายขั ดเคือง
คงเพราะเนื่อง..โอบาม่า..มา ไม่นวด
.......................... ...ช.ศรีนอก (๑๙/๑๑/๕๕)
..........................
เฝ้าเหนือหัวทัวร์อารามแวะถ
ทานข้าวผัดปูนิ่มยิ้มระรื่น
บอกยิ่งรักประเทศไทยไม่อยาก
แต่จำฝืนเข้าเมียนม่าร์ข้าม
..........................
ภาพผู้นำโอบาม่าเข้าหาพระ
ฟังวาทะเอกสงฆ์คงถวิล
สำเนียงเหน่อถ้อยสุพรรณ..คร
หนุ่มผิวนิล..เยสรับ...ประท
..........................
เจ้าคุณพระสุธีธรรมานุวัตร
ท่านเจนจัดหลักธรรมนำสมัย
คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย
จารึกไว้ในประวัติบรรทัดทอง
..........................
เจ้าคุณเทียบเปรียบตัวแทนแค
รู้ในนามสังฆังชื่อดังก้อง
สง่างามเชตุพนคนเฝ้ามอง
โลกยกย่องสงฆ์สยามอร่ามเรือ
..........................
คงเป็นบุญวาสนาโอบาม่า
ที่ได้มาแดนภิรมย์ร่มผ้าเหล
มองเห็นยักษ์ข้างวัดคล้ายขั
คงเพราะเนื่อง..โอบาม่า..มา
..........................
ที่มา http://www.facebook.com/photo.php?fbid=300041700097526&set=a.225950414173322.38205.100002750967703&type=1&theater
-------------------------------------------------------------------------------------
เป็น
ครั้งแรกที่ผู้นำสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีบารัค โอบามา
มาเยือนไทยอย่างเป็นทางการภายหลังชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 เมื่อวันที่
18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในฐานะแขกของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ใน ห้วงเวลาที่อาเซียนกำลังเป็นภูมิภาคที่หอมหวานยิ่งนัก ซึ่งหลังจากผู้นำสหรัฐมาเยือนแล้ว ยังมีผู้นำจีนที่รอจ่อคิวมาเยือนไทยอีก แทบทุกอิริยาบถของนายบารัค โอบามา ไม่ว่าจะขยับไปตรงไหน จึงเป็นที่จับจ้อง
เมื่อ พญาอินทรีร้องขอทัวร์วัดโพธิ์ สายตาทุกคู่จึงพุ่งเป้าไปที่ผู้จะมาทำหน้าที่มัคคุเทศก์นำชมให้กับ ประธานาธิบดีสหรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐ นางฮิลลารี คลินตัน
"พระสุธีธรรมานุวัตร หรือ เจ้าคุณเทียบ คือผู้ที่ได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่นี้
ไม่ เพียงความคล่องแคล่ว เชี่ยวชาญการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสาร เป็นตัวแทนคนไทยรับรองแขกบ้านแขกเมืองได้อย่างน่าชื่นชม ปฏิภาณที่โต้ตอบกับนางฮิลลารี คลินตัน ยังได้ใจคนไทยทั้งประเทศไปเต็มๆ
"ตอน ที่ฮิลลารี คลินตัน บอกว่าทางวัดได้ค่าผ่านประตูเยอะ น่าจะบริจาคให้กับมูลนิธิที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ดูแล ตอนนั้นมันเป็นจังหวะ นี่ถ้าให้มาอีกรอบ อาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะระหว่างที่รอท่านประธานาธิบดี อาตมาได้คุยกับท่านฮิลลารีจนรู้สึกสนิทสนม และผ่อนคลาย จึงได้พูดออกไปเช่นนั้น คือเหตุการณ์มันพาไป" เจ้าคุณเทียบย้อนเรื่องให้ฟังอย่างอารมณ์ดี
เพียง ไม่กี่นาทีของการแพร่ภาพการนำประธานาธิบดีสหรัฐชมวัดโพธิ์ ทำให้พระพระสุธีธรรมานุวัตร เป็นคนดังไปทั่วโลกชั่วข้ามคืน เพราะหลังจากนั้นมีสื่อจากต่างประเทศและสื่อไทย รายการโทรทัศน์-วิทยุ หนังสือพิมพ์ จองตัวสัมภาษณ์ เรียกว่าหัวบันไดไม่แห้ง
พระ สุธีธรรมานุวัตร เกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2504 บรรพชาเป็นสามเณร ตั้งแต่อายุ 11 ปี ที่วัดกกม่วง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ให้หลัง 2 ปีได้เข้าศึกษาต่อทางพระพุทธศาสนา ที่วัดสองพี่น้อง จังหวัดเดียวกัน ได้ ปธ.7 จากนั้นเข้าอุปสมบทเป็นภิกษุสงฆ์ และอยู่ในความดูแลของหลวงเตี๋ย พระธรรมราชานุวัตร (กมล โกวิโท) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กระทั่งสอบได้ ปธ.9
จาก พระสงฆ์บ้านนอกธรรมดาๆ ที่ขยันหมั่นเพียร เล่าเรียนวิชา กระทั่งได้ทุนการศึกษาจากพระอุปัชฌาย์คือพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา ทิพย์มณฑา) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ไปศึกษาต่อยังประเทศอินเดีย
ความที่ถูกปรามาสจากอาจารย์สตรีที่มี อายุอ่อยกว่าถึง 9 ปี ว่า ภาษาอังกฤษแย่มากๆ เกิดเป็นพลังที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษกระทั่งเชี่ยวชาญ และสำเร็จการศึกษาขั้นสูงสุดของ มหาวิทยาลัยรัฐปูเณ่ รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย
ปัจจุบัน พระสุธีธรรมานุวัตร ผศ.ดร. (เทียบ สิริญาโณ) อายุ 51 พรรษา 30 เปรียญธรรม 9 ประโยค มหาบัณฑิต (บาลีและสันสกฤต) ดร.(บาลี) เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรวิหาร และคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- ทราบว่าพระคุณเจ้าได้ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ
อาตมา ไปศึกษาต่อที่ประเทศอินเดีย ได้รับความกรุณาจากพระอุปัชฌาย์ คือพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ "หลวงเตี่ย" พระเดชพระคุณพระธรรมราชานุวัตร อดีตเจ้าคณะภาค 14 หัวหน้าพระธรรมทูต สาย 2 และญาติโยมอุปถัมภ์ให้อาตมาได้ไปศึกษา
ตอนแรกที่ไปถึงภาษาของอาตมา เป็นแบบงูๆ ปลาๆ ภาษาอังกฤษแย่มาก พูดแบบดำน้ำ ต้องไปเรียนภาษาอังกฤษกับอาจารย์ผู้หญิงอายุ 19 ปี เป็นแขกขาว ตอนนั้นอาตมาอายุย่าง 28 ปี เวลาอาจารย์สอนจะมีพ่อมานอนเฝ้าตลอดเวลา พอเรียนๆ ไปก็ถูกอาจารย์ชี้หน้า บอกว่ามาเรียนปริญญาโทแล้วภาษาอังกฤษยังแย่ขนาดนี้ ตั้งแต่นั้นก็เกิดวิริยะอุตสาหะ ต้องเรียนภาษาอังกฤษให้ดีให้ได้
- เรียนอยู่นานแค่ไหน
8 ปี อ่านหนังสือภาษาอังกฤษเป็นหลายพันเล่ม และมีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษพอสมควร พอสำเร็จปริญญาเอก สาขาบาลี-สันสกฤต รัฐปูเณ่ รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดียก็กลับมาทำงานที่ มจร.ซึ่งได้รับความกรุณาจากพระธรรมโกศาจารย์ (ศ.ดร.ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเริ่มจากเจ้าหน้าที่ประจำกอง วิชาการ แล้วก็ได้รับแต่งตั้งมาจนเป็นคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย สอนหลักสูตรภาษาอังกฤษนานาชาติ เลยทำให้ภาษาอังกฤษเราได้พัฒนา
สำเนียงคงไม่ถึงกับเหมือนเขา แต่สื่อสารได้ในระดับหนึ่งที่ทำให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กับฮิลลารี คลินตัน หัวเราะได้
- ทราบว่าพระคุณเจ้าได้ช่วยงานเวลามีงานวิสาขบูชาโลก
อาตมา ไปเป็นฝ่ายประสานงาน เป็นพิธีกร รวมทั้งเวลาที่มีงานสัมมนาเป็นภาษาอังกฤษ ก็ได้เป็นพิธีกร เป็นความกรุณาของท่านอธิการบดี ให้พวกเราได้มีโอกาสแสดงออก คนเราถ้ามีความรู้ดี มีอะไรดีก็ตาม ถ้าไม่ได้ใช้ ไม่ได้แสดงออก ความรู้ก็อยู่ในวงจำกัด
ที่ มจร.ก็มีพระหลายท่านที่มีความรู้ความสามารถ เก่งกว่าอาตมามี แต่ไม่มีโอกาสแสดง ยกตัวอย่าง ท่านประธานาธิบดีบารัค โอบามา มาวัดพระเชตุพน พระวัดอื่นก็ไม่มีโอกาสได้นำชม
- พูดถึงหลวงเตี่ย ได้เรียนรู้อะไรกับท่านบ้าง
หลวง เตี่ยเป็นภิกษุสงฆ์ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี และท่านเป็นคนที่รับแขก มองการณ์ไกล การที่วัดโพธิ์เก็บค่าเข้าชมก็เป็นความคิดของท่าน เพราะวัดโพธิ์เมื่อก่อนเป็นวัดจน จะซ่อม เราก็ตั้งมูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้า แล้วก็เริ่มเก็บค่าผ่านประตู ครั้งแรกโดยจัดงานสงกรานต์รายได้ซ่อมสร้าง แต่ก็ไม่ได้กี่สตางค์ แต่หลวงเตี่ยท่านเป็นพระวิสัยทัศน์ไกล ท่านไปต่างประเทศไปอะไร เห็นว่าไปต่างประเทศยังต้องเสียค่าเข้าชม ท่านก็ได้แนวคิดนั้นมา
- หลวงเตี่ยพูดภาษาอังกฤษได้ดี
ถ้า ระดับสื่อสารไม่ได้คิดอย่างนั้น ตอนท่านไปต่างประเทศเป็นเจ้าอาวาส ท่านอายุ 50 กว่าแล้ว อยู่ในสังคม คือประเทศอเมริกาไม่ต้องพูดภาษาอังกฤษหรอก เหมือนกับอยู่เมืองไทย ภาษาลาว ภาษาเขมร เพราะผู้อพยพเยอะ
- รู้สึกอย่างไรบ้างกับการที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้
อาตมา ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของวัดนี้ เมื่อสิ่งไหนที่สามารถทำให้วัดได้ เราเป็นผู้อาศัยเราต้องทำ เมื่อคนระดับโลกมา และคนของวัดนำชมได้โดยไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ บางท่านยังมีอคติกับพระว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ไม่สามารถสื่อสารอะไรได้ ในภาพรวมพระสงฆ์ของเราสามารถนำแขกบ้านแขกเมืองได้ ก็ถือว่าวัด "ได้" เมื่อวัดได้ อาตมากับพระในวัดก็ได้ด้วย ในทางตรงกันข้ามถ้าวัดตอนรับไม่ได้ พระในวัดก็เสียชื่อเสียงด้วย ถือว่าเป็นความภูมิใจที่มีคนระดับโลกมาชม
- ได้รับเลือกมาทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์กิตติมศักดิ์ให้กับผู้นำสหรัฐนำชมวัดโพธิ์ได้อย่างไร
เป็น เพราะได้รับการมอบหมายจากพระอุดรคณารักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งในช่วงวันที่ 18 พฤศจิกายนท่านไม่อยู่ต้องไปปฏิบัติกิจในต่างประเทศ ในฐานะท่านเป็นเลขานุการวัดโพธิ์ ท่านก็เลือกอาตมาเป็นคนพานายบารัค โอบามา ชมวัด โดยกำหนดจุดที่จะพาชมทั้งหมด 4 จุด คือ พระอุโบสถ ที่ประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร, พระวิหารพระพุทธไสยาสน์, พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล และเขามอที่ตั้งรูปปั้นฤๅษีดัดตน
ทั้ง 4 จุดที่ บารัค โอบามา มีกำหนดการเข้าชมภายในวัดนั้น ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญและความงดงาม รวมทั้งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ที่นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแล้ว ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีความงดงาม พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ก็เป็นกลุ่มเจดีย์ที่มีความงดงามเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์แบบจีน ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ เครื่องถ้วยหลากสี มีตุ๊กตาหินจีนประตูละคู่ พระมหาเจดีย์แต่ละองค์เป็นเจดีย์ย่อไม้สิบสองสูงถึง 42 เมตร
- เป็นผู้นำชมประธานาธิบดีสหรัฐต้องถูกตรวจค้นจากหน่วยรักษาความปลอดภัยด้วยหรือเปล่า
ตอน แรกจะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มจากหน่วยรักษาความปลอดภัย แต่ตอนหลังมีการประสานงานอย่างไรไม่ทราบ พอทราบว่าอาตมาจะต้องเป็นพระที่นำนายบารัค โอบามา ชมวัด ก็ไม่ต้องถูกตรวจค้นเลย เจ้าหน้าที่ทางสถาทูตที่เป็นคนไทยคงบอกสถานะของความเป็นพระว่าพระสงฆ์ไทยไม่ ยุ่งเกี่ยวทางโลก ส่วนพระรูปอื่นที่ไปกับอาตมาอีกรูปก็ไม่ได้การตรวจสอบเช่นกัน
- มองนายบารัค โอบามา ว่าเดินทางมาครั้งนี้มีความรู้เรื่องประเทศของเรามากน้อยแค่ไหน
คิด ว่านายบารัค โอบามา เหมือนกับชาวต่างชาติทั่วไปว่ามาประเทศไทยแล้วสถานที่สำคัญจะต้องไปที่ไหน ก็เหมือนกับเราไปดูสถานที่สำคัญในต่างประเทศ อย่าลืมว่าท่านเป็นนักการเมือง
- การมาของนายบารัค โอบามา ประเทศไทย ทางวัดได้อะไรจากการมาครั้งนี้
มอง ในแง่ระดับชาติก่อน ว่าท่านไม่เคยทัวร์เอเชีย และท่านเองได้เป็นประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สอง ซึ่งท่านเลือกมาประเทศไทยเป็นแห่งแรก ก่อนเดินทางต่อไปประเทศอื่น ก็ถือว่านายบารัค โอบามา เป็นเบอร์หนึ่งของโลก การมาครั้งนี้ของท่านถือว่าให้เกียรติกับประเทศไทยและวัดเป็นอย่างมาก
ท่าน บารัค โอบามา เป็นชาวคริสต์ มาประเทศไทยยังนึกถึงพระพุทธศาสนา เพราะพระพุทธศาสนา เป็นรากฐานของวัฒนธรรมไทย หลังจากมาวัดท่านไปเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หลังเข้าเฝ้าฯเสร็จ และเดินทางไปพบกับนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอนแรกอาตมาไม่ได้คิด พอมีคนโทร.มาถามเรื่องนี่ก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่าท่านประธานาธิบดี มีจิตวิทยาสูง
- ช่วงนี้ประเทศไทยกำลังเตรียมตัวรับเออีซี ในฐานะที่เป็นคณบดีมีการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับพระสงฆ์
ที่ มจร.มีการปรับปรุงหลักสูตรทุก 5 ปีเป็นปกติอยู่แล้ว ในระดับปริญญาตรีก็มีสอนภาษากัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม และมีการสอนประพุทธศาสนาในเอเชียด้วย ก่อนหน้านี้อาตมาเป็นคณบดีคณะพุทธศาสตร์ ก็รับผิดชอบวิชาด้านพุทธศาสตร์
แต่ ในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ที่สอนเกี่ยวกับเพื่อนบ้านโดยตรงไม่มี เพราะถือว่าเรียนวิชาพื้นฐานจากปริญญาตรีมาแล้ว แต่ในอนาคตทาง มจร.ก็จะมีพระจากประเทศ สปป.ลาว เขมร มาเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะปริญญา โท-เอก อาตมามองว่า น่าจะมีวิชาเกี่ยวกับประวัติพุทธศาสนาในระดับชั้นสูง อาจจะต้องให้ทำวิจัยร่วมกัน ระหว่างพระสงฆ์ที่มีศีล 227 เท่ากัน ว่าเราทั้งสองประเทศจะเรียนรู้ร่วมกันอย่างไร
ในอนาคตทาง มจร.ก็จะมีพระจากประเทศ สปป.ลาว เขมร มาเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะปริญญาโท-เอก น่าจะต้องมีวิชาประวัติศาสตร์ พระพุทธศาสนา ในเอเชียอาคเนย์ ในอนาคตทาง มจร.ก็จะมีพระจากประเทศ สปป.ลาว เขมร มาเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะปริญญาโท-เอก น่าจะต้องมีวิชาประวัติศาสตร์ พระพุทธศาสนา ในเอเชียอาคเนย์ ตอนนี้แน่นอนทางเขมร พม่า ก็ต้องเรียนภาษา และจะเกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างนักศึกษา และนักศึกษาของไทยที่จะส่งไปแลกเปลี่ยน เพื่อได้เรียนรู้และพูดภาษาของเพื่อนบ้านได้
ขณะเดียวกันนักศึกษา เขมร ลาว พม่า เวียดนาม ก็ต้องพูดภาษาไทยได้ ก็คือมีการเรียนรู้ระหว่างนักศึกษาด้วยกัน ปัจจุบันเราใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง ถามว่ามีประโยชน์หรือไม่ก็มีประโยชน์ในแง่หนึ่ง แต่อย่าลืม นักศึกษาในอาเซียนมาภาษาของตัวเองอยู่แล้ว นักศึกษาเหล่านี้ก็จะมีข้อจำกัดในการใช้ภาษาอังกฤษ
แล้วจะทำอย่างไรมีอยู่ทางเดียว ก็คือต้องเรียนภาษาของแต่ละประเทศในอาเซียน จะทำให้สามารถติดต่อประสานงานได้สะดวกยิ่งขึ้น
- จีนก็อยู่ในอาเซียน +3 ทาง มจร.จะมีการสอนภาษาจีนด้วยหรือเปล่า
แน่ นอนในหลายมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมีสอนภาษาจีนอยู่แล้วในปัจจุบัน เดี๋ยวนี้ตื่นตัวกันมากในการศึกษาภาษาจีนประวัติศาสตร์ของประเทศจีน ทางมหาวิทยาลัยก็มีสอนอยู่บ้างแต่ยังไม่ถึงขั้นตั้งเป็นสถาบัน
- กับพระรุ่นหลังที่ยังศึกษาอยู่มีอะไรที่จะแนะแนวให้กับพระเหล่านั้นบ้าง
อาตมา มองว่าชีวิตคนเราพัฒนาได้ด้วยการศึกษา อย่างโอบามา หรือฮิลลารี คลินตัน ถามประวัติ เราก็บอกว่าเป็นเด็กวัดไม่มีโอกาสอะไร ก็อาศัยวัดอาศัยพระพุทธศาสนาขัดเกลาจิตใจ อาตมาคิดว่าคนเราความฉลาดไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไร แต่สิ่งหนึ่งที่มีไม่เหมือนกันคือ โอกาส แต่เมื่อโอกาสมาถึงแล้วเรารู้จักใช้หรือเปล่า
อย่างเช่น ประธานาธิบดีมา ถ้าอาตมาปฏิเสธ ก็ต้องไปใช้บริการจากคนอื่น กลายเป็นว่าบ้านเราต้องให้คนอื่นมาแสดง
"อาตมา ถือว่าเป็นโอกาสที่อาตมาได้ตอบแทนพระคุณของวัด ถือว่าเป็นเกียรติแก่วัดโพธิ์ เป็นเกียรติแก่พุทธศาสนา และเป็นเกียรติแก่ประเทศไทย"
-------------------------------------------------------------------------------------
ใน ห้วงเวลาที่อาเซียนกำลังเป็นภูมิภาคที่หอมหวานยิ่งนัก ซึ่งหลังจากผู้นำสหรัฐมาเยือนแล้ว ยังมีผู้นำจีนที่รอจ่อคิวมาเยือนไทยอีก แทบทุกอิริยาบถของนายบารัค โอบามา ไม่ว่าจะขยับไปตรงไหน จึงเป็นที่จับจ้อง
เมื่อ พญาอินทรีร้องขอทัวร์วัดโพธิ์ สายตาทุกคู่จึงพุ่งเป้าไปที่ผู้จะมาทำหน้าที่มัคคุเทศก์นำชมให้กับ ประธานาธิบดีสหรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐ นางฮิลลารี คลินตัน
"พระสุธีธรรมานุวัตร หรือ เจ้าคุณเทียบ คือผู้ที่ได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่นี้
ไม่ เพียงความคล่องแคล่ว เชี่ยวชาญการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสาร เป็นตัวแทนคนไทยรับรองแขกบ้านแขกเมืองได้อย่างน่าชื่นชม ปฏิภาณที่โต้ตอบกับนางฮิลลารี คลินตัน ยังได้ใจคนไทยทั้งประเทศไปเต็มๆ
"ตอน ที่ฮิลลารี คลินตัน บอกว่าทางวัดได้ค่าผ่านประตูเยอะ น่าจะบริจาคให้กับมูลนิธิที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ดูแล ตอนนั้นมันเป็นจังหวะ นี่ถ้าให้มาอีกรอบ อาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะระหว่างที่รอท่านประธานาธิบดี อาตมาได้คุยกับท่านฮิลลารีจนรู้สึกสนิทสนม และผ่อนคลาย จึงได้พูดออกไปเช่นนั้น คือเหตุการณ์มันพาไป" เจ้าคุณเทียบย้อนเรื่องให้ฟังอย่างอารมณ์ดี
เพียง ไม่กี่นาทีของการแพร่ภาพการนำประธานาธิบดีสหรัฐชมวัดโพธิ์ ทำให้พระพระสุธีธรรมานุวัตร เป็นคนดังไปทั่วโลกชั่วข้ามคืน เพราะหลังจากนั้นมีสื่อจากต่างประเทศและสื่อไทย รายการโทรทัศน์-วิทยุ หนังสือพิมพ์ จองตัวสัมภาษณ์ เรียกว่าหัวบันไดไม่แห้ง
พระ สุธีธรรมานุวัตร เกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2504 บรรพชาเป็นสามเณร ตั้งแต่อายุ 11 ปี ที่วัดกกม่วง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ให้หลัง 2 ปีได้เข้าศึกษาต่อทางพระพุทธศาสนา ที่วัดสองพี่น้อง จังหวัดเดียวกัน ได้ ปธ.7 จากนั้นเข้าอุปสมบทเป็นภิกษุสงฆ์ และอยู่ในความดูแลของหลวงเตี๋ย พระธรรมราชานุวัตร (กมล โกวิโท) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กระทั่งสอบได้ ปธ.9
จาก พระสงฆ์บ้านนอกธรรมดาๆ ที่ขยันหมั่นเพียร เล่าเรียนวิชา กระทั่งได้ทุนการศึกษาจากพระอุปัชฌาย์คือพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา ทิพย์มณฑา) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ไปศึกษาต่อยังประเทศอินเดีย
ความที่ถูกปรามาสจากอาจารย์สตรีที่มี อายุอ่อยกว่าถึง 9 ปี ว่า ภาษาอังกฤษแย่มากๆ เกิดเป็นพลังที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษกระทั่งเชี่ยวชาญ และสำเร็จการศึกษาขั้นสูงสุดของ มหาวิทยาลัยรัฐปูเณ่ รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย
ปัจจุบัน พระสุธีธรรมานุวัตร ผศ.ดร. (เทียบ สิริญาโณ) อายุ 51 พรรษา 30 เปรียญธรรม 9 ประโยค มหาบัณฑิต (บาลีและสันสกฤต) ดร.(บาลี) เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรวิหาร และคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- ทราบว่าพระคุณเจ้าได้ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ
อาตมา ไปศึกษาต่อที่ประเทศอินเดีย ได้รับความกรุณาจากพระอุปัชฌาย์ คือพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ "หลวงเตี่ย" พระเดชพระคุณพระธรรมราชานุวัตร อดีตเจ้าคณะภาค 14 หัวหน้าพระธรรมทูต สาย 2 และญาติโยมอุปถัมภ์ให้อาตมาได้ไปศึกษา
ตอนแรกที่ไปถึงภาษาของอาตมา เป็นแบบงูๆ ปลาๆ ภาษาอังกฤษแย่มาก พูดแบบดำน้ำ ต้องไปเรียนภาษาอังกฤษกับอาจารย์ผู้หญิงอายุ 19 ปี เป็นแขกขาว ตอนนั้นอาตมาอายุย่าง 28 ปี เวลาอาจารย์สอนจะมีพ่อมานอนเฝ้าตลอดเวลา พอเรียนๆ ไปก็ถูกอาจารย์ชี้หน้า บอกว่ามาเรียนปริญญาโทแล้วภาษาอังกฤษยังแย่ขนาดนี้ ตั้งแต่นั้นก็เกิดวิริยะอุตสาหะ ต้องเรียนภาษาอังกฤษให้ดีให้ได้
- เรียนอยู่นานแค่ไหน
8 ปี อ่านหนังสือภาษาอังกฤษเป็นหลายพันเล่ม และมีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษพอสมควร พอสำเร็จปริญญาเอก สาขาบาลี-สันสกฤต รัฐปูเณ่ รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดียก็กลับมาทำงานที่ มจร.ซึ่งได้รับความกรุณาจากพระธรรมโกศาจารย์ (ศ.ดร.ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเริ่มจากเจ้าหน้าที่ประจำกอง วิชาการ แล้วก็ได้รับแต่งตั้งมาจนเป็นคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย สอนหลักสูตรภาษาอังกฤษนานาชาติ เลยทำให้ภาษาอังกฤษเราได้พัฒนา
สำเนียงคงไม่ถึงกับเหมือนเขา แต่สื่อสารได้ในระดับหนึ่งที่ทำให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กับฮิลลารี คลินตัน หัวเราะได้
- ทราบว่าพระคุณเจ้าได้ช่วยงานเวลามีงานวิสาขบูชาโลก
อาตมา ไปเป็นฝ่ายประสานงาน เป็นพิธีกร รวมทั้งเวลาที่มีงานสัมมนาเป็นภาษาอังกฤษ ก็ได้เป็นพิธีกร เป็นความกรุณาของท่านอธิการบดี ให้พวกเราได้มีโอกาสแสดงออก คนเราถ้ามีความรู้ดี มีอะไรดีก็ตาม ถ้าไม่ได้ใช้ ไม่ได้แสดงออก ความรู้ก็อยู่ในวงจำกัด
ที่ มจร.ก็มีพระหลายท่านที่มีความรู้ความสามารถ เก่งกว่าอาตมามี แต่ไม่มีโอกาสแสดง ยกตัวอย่าง ท่านประธานาธิบดีบารัค โอบามา มาวัดพระเชตุพน พระวัดอื่นก็ไม่มีโอกาสได้นำชม
- พูดถึงหลวงเตี่ย ได้เรียนรู้อะไรกับท่านบ้าง
หลวง เตี่ยเป็นภิกษุสงฆ์ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี และท่านเป็นคนที่รับแขก มองการณ์ไกล การที่วัดโพธิ์เก็บค่าเข้าชมก็เป็นความคิดของท่าน เพราะวัดโพธิ์เมื่อก่อนเป็นวัดจน จะซ่อม เราก็ตั้งมูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้า แล้วก็เริ่มเก็บค่าผ่านประตู ครั้งแรกโดยจัดงานสงกรานต์รายได้ซ่อมสร้าง แต่ก็ไม่ได้กี่สตางค์ แต่หลวงเตี่ยท่านเป็นพระวิสัยทัศน์ไกล ท่านไปต่างประเทศไปอะไร เห็นว่าไปต่างประเทศยังต้องเสียค่าเข้าชม ท่านก็ได้แนวคิดนั้นมา
- หลวงเตี่ยพูดภาษาอังกฤษได้ดี
ถ้า ระดับสื่อสารไม่ได้คิดอย่างนั้น ตอนท่านไปต่างประเทศเป็นเจ้าอาวาส ท่านอายุ 50 กว่าแล้ว อยู่ในสังคม คือประเทศอเมริกาไม่ต้องพูดภาษาอังกฤษหรอก เหมือนกับอยู่เมืองไทย ภาษาลาว ภาษาเขมร เพราะผู้อพยพเยอะ
- รู้สึกอย่างไรบ้างกับการที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้
อาตมา ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของวัดนี้ เมื่อสิ่งไหนที่สามารถทำให้วัดได้ เราเป็นผู้อาศัยเราต้องทำ เมื่อคนระดับโลกมา และคนของวัดนำชมได้โดยไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ บางท่านยังมีอคติกับพระว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ไม่สามารถสื่อสารอะไรได้ ในภาพรวมพระสงฆ์ของเราสามารถนำแขกบ้านแขกเมืองได้ ก็ถือว่าวัด "ได้" เมื่อวัดได้ อาตมากับพระในวัดก็ได้ด้วย ในทางตรงกันข้ามถ้าวัดตอนรับไม่ได้ พระในวัดก็เสียชื่อเสียงด้วย ถือว่าเป็นความภูมิใจที่มีคนระดับโลกมาชม
- ได้รับเลือกมาทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์กิตติมศักดิ์ให้กับผู้นำสหรัฐนำชมวัดโพธิ์ได้อย่างไร
เป็น เพราะได้รับการมอบหมายจากพระอุดรคณารักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งในช่วงวันที่ 18 พฤศจิกายนท่านไม่อยู่ต้องไปปฏิบัติกิจในต่างประเทศ ในฐานะท่านเป็นเลขานุการวัดโพธิ์ ท่านก็เลือกอาตมาเป็นคนพานายบารัค โอบามา ชมวัด โดยกำหนดจุดที่จะพาชมทั้งหมด 4 จุด คือ พระอุโบสถ ที่ประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร, พระวิหารพระพุทธไสยาสน์, พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล และเขามอที่ตั้งรูปปั้นฤๅษีดัดตน
ทั้ง 4 จุดที่ บารัค โอบามา มีกำหนดการเข้าชมภายในวัดนั้น ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญและความงดงาม รวมทั้งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ที่นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแล้ว ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีความงดงาม พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ก็เป็นกลุ่มเจดีย์ที่มีความงดงามเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์แบบจีน ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ เครื่องถ้วยหลากสี มีตุ๊กตาหินจีนประตูละคู่ พระมหาเจดีย์แต่ละองค์เป็นเจดีย์ย่อไม้สิบสองสูงถึง 42 เมตร
- เป็นผู้นำชมประธานาธิบดีสหรัฐต้องถูกตรวจค้นจากหน่วยรักษาความปลอดภัยด้วยหรือเปล่า
ตอน แรกจะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มจากหน่วยรักษาความปลอดภัย แต่ตอนหลังมีการประสานงานอย่างไรไม่ทราบ พอทราบว่าอาตมาจะต้องเป็นพระที่นำนายบารัค โอบามา ชมวัด ก็ไม่ต้องถูกตรวจค้นเลย เจ้าหน้าที่ทางสถาทูตที่เป็นคนไทยคงบอกสถานะของความเป็นพระว่าพระสงฆ์ไทยไม่ ยุ่งเกี่ยวทางโลก ส่วนพระรูปอื่นที่ไปกับอาตมาอีกรูปก็ไม่ได้การตรวจสอบเช่นกัน
- มองนายบารัค โอบามา ว่าเดินทางมาครั้งนี้มีความรู้เรื่องประเทศของเรามากน้อยแค่ไหน
คิด ว่านายบารัค โอบามา เหมือนกับชาวต่างชาติทั่วไปว่ามาประเทศไทยแล้วสถานที่สำคัญจะต้องไปที่ไหน ก็เหมือนกับเราไปดูสถานที่สำคัญในต่างประเทศ อย่าลืมว่าท่านเป็นนักการเมือง
- การมาของนายบารัค โอบามา ประเทศไทย ทางวัดได้อะไรจากการมาครั้งนี้
มอง ในแง่ระดับชาติก่อน ว่าท่านไม่เคยทัวร์เอเชีย และท่านเองได้เป็นประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สอง ซึ่งท่านเลือกมาประเทศไทยเป็นแห่งแรก ก่อนเดินทางต่อไปประเทศอื่น ก็ถือว่านายบารัค โอบามา เป็นเบอร์หนึ่งของโลก การมาครั้งนี้ของท่านถือว่าให้เกียรติกับประเทศไทยและวัดเป็นอย่างมาก
ท่าน บารัค โอบามา เป็นชาวคริสต์ มาประเทศไทยยังนึกถึงพระพุทธศาสนา เพราะพระพุทธศาสนา เป็นรากฐานของวัฒนธรรมไทย หลังจากมาวัดท่านไปเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หลังเข้าเฝ้าฯเสร็จ และเดินทางไปพบกับนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอนแรกอาตมาไม่ได้คิด พอมีคนโทร.มาถามเรื่องนี่ก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่าท่านประธานาธิบดี มีจิตวิทยาสูง
- ช่วงนี้ประเทศไทยกำลังเตรียมตัวรับเออีซี ในฐานะที่เป็นคณบดีมีการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับพระสงฆ์
ที่ มจร.มีการปรับปรุงหลักสูตรทุก 5 ปีเป็นปกติอยู่แล้ว ในระดับปริญญาตรีก็มีสอนภาษากัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม และมีการสอนประพุทธศาสนาในเอเชียด้วย ก่อนหน้านี้อาตมาเป็นคณบดีคณะพุทธศาสตร์ ก็รับผิดชอบวิชาด้านพุทธศาสตร์
แต่ ในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ที่สอนเกี่ยวกับเพื่อนบ้านโดยตรงไม่มี เพราะถือว่าเรียนวิชาพื้นฐานจากปริญญาตรีมาแล้ว แต่ในอนาคตทาง มจร.ก็จะมีพระจากประเทศ สปป.ลาว เขมร มาเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะปริญญา โท-เอก อาตมามองว่า น่าจะมีวิชาเกี่ยวกับประวัติพุทธศาสนาในระดับชั้นสูง อาจจะต้องให้ทำวิจัยร่วมกัน ระหว่างพระสงฆ์ที่มีศีล 227 เท่ากัน ว่าเราทั้งสองประเทศจะเรียนรู้ร่วมกันอย่างไร
ในอนาคตทาง มจร.ก็จะมีพระจากประเทศ สปป.ลาว เขมร มาเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะปริญญาโท-เอก น่าจะต้องมีวิชาประวัติศาสตร์ พระพุทธศาสนา ในเอเชียอาคเนย์ ในอนาคตทาง มจร.ก็จะมีพระจากประเทศ สปป.ลาว เขมร มาเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะปริญญาโท-เอก น่าจะต้องมีวิชาประวัติศาสตร์ พระพุทธศาสนา ในเอเชียอาคเนย์ ตอนนี้แน่นอนทางเขมร พม่า ก็ต้องเรียนภาษา และจะเกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างนักศึกษา และนักศึกษาของไทยที่จะส่งไปแลกเปลี่ยน เพื่อได้เรียนรู้และพูดภาษาของเพื่อนบ้านได้
ขณะเดียวกันนักศึกษา เขมร ลาว พม่า เวียดนาม ก็ต้องพูดภาษาไทยได้ ก็คือมีการเรียนรู้ระหว่างนักศึกษาด้วยกัน ปัจจุบันเราใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง ถามว่ามีประโยชน์หรือไม่ก็มีประโยชน์ในแง่หนึ่ง แต่อย่าลืม นักศึกษาในอาเซียนมาภาษาของตัวเองอยู่แล้ว นักศึกษาเหล่านี้ก็จะมีข้อจำกัดในการใช้ภาษาอังกฤษ
แล้วจะทำอย่างไรมีอยู่ทางเดียว ก็คือต้องเรียนภาษาของแต่ละประเทศในอาเซียน จะทำให้สามารถติดต่อประสานงานได้สะดวกยิ่งขึ้น
- จีนก็อยู่ในอาเซียน +3 ทาง มจร.จะมีการสอนภาษาจีนด้วยหรือเปล่า
แน่ นอนในหลายมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมีสอนภาษาจีนอยู่แล้วในปัจจุบัน เดี๋ยวนี้ตื่นตัวกันมากในการศึกษาภาษาจีนประวัติศาสตร์ของประเทศจีน ทางมหาวิทยาลัยก็มีสอนอยู่บ้างแต่ยังไม่ถึงขั้นตั้งเป็นสถาบัน
- กับพระรุ่นหลังที่ยังศึกษาอยู่มีอะไรที่จะแนะแนวให้กับพระเหล่านั้นบ้าง
อาตมา มองว่าชีวิตคนเราพัฒนาได้ด้วยการศึกษา อย่างโอบามา หรือฮิลลารี คลินตัน ถามประวัติ เราก็บอกว่าเป็นเด็กวัดไม่มีโอกาสอะไร ก็อาศัยวัดอาศัยพระพุทธศาสนาขัดเกลาจิตใจ อาตมาคิดว่าคนเราความฉลาดไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไร แต่สิ่งหนึ่งที่มีไม่เหมือนกันคือ โอกาส แต่เมื่อโอกาสมาถึงแล้วเรารู้จักใช้หรือเปล่า
อย่างเช่น ประธานาธิบดีมา ถ้าอาตมาปฏิเสธ ก็ต้องไปใช้บริการจากคนอื่น กลายเป็นว่าบ้านเราต้องให้คนอื่นมาแสดง
"อาตมา ถือว่าเป็นโอกาสที่อาตมาได้ตอบแทนพระคุณของวัด ถือว่าเป็นเกียรติแก่วัดโพธิ์ เป็นเกียรติแก่พุทธศาสนา และเป็นเกียรติแก่ประเทศไทย"
ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1353813035&grpid=&catid=09&subcatid=0905
------------------------------------------------------------------------
เปิดใจ"พระสุธีธรรมานุวัตร" ไกด์"โอบามา"ท่องวัดโพธิ์
กลาย
เป็นคนดังไปชั่วข้ามคืน สำหรับ "พระสุธีธรรมานุวัตร" (เทียบ สิริญาโณ)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
และคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ที่ได้โอกาสเป็นไกด์นำนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
พร้อมด้วยนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศ ของสหรัฐอเมริกา
เยี่ยมชมสถานที่สำคัญของวัดพระเชตุพนฯ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 พ.ย.
จนกลายเป็นข่าวดังกล่าวไปทั่วโลก
พระสุธีธรรมานุวัตร กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับโอกาสสำคัญครั้งนี้ ว่าได้รับมอบหมายจากพระธรรมปัญญาบดี เจ้าอาวาส ให้เป็นผู้นำคณะของผู้นำสหรัฐเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของวัด เมื่อทราบว่าจะต้องทำหน้าที่สำคัญนี้ อาตมาได้เตรียมตัวข้อมูลของวัด ตามโปรแกรมที่คณะเจ้าหน้าที่สหรัฐแจ้งว่า ผู้นำสหรัฐมีเวลาเพียง 30 นาที ในการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในวัดโพธิ์ ประกอบด้วย พระวิหารโลกนาถ, พระอุโบสถ, วิหารพระนอน และเจดีย์ 4 รัชกาล
ทั้งนี้ สถานที่ที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา และนางฮิลลารี คลินตัน ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ คือ พระพุทธไสยาสน์ ซึ่งทั้งสองชมว่า เป็นพระพุทธรูปที่สวยงามมาก พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐยังบอกให้เจ้าหน้าที่นำรูปบูชาของพระพุทธไสยาสน์กลับ ไปฝากลูกสาวที่สหรัฐอเมริกาด้วย
"ระหว่างที่เข้าสักการะพระ พุทธไสยาสน์ อาตมาได้บอกกับประธานาธิบดีบารัก โอบามา ว่า พระพุทธรูปนี้ชาวไทยเชื่อกันว่าหากขอพรอะไรไปจะสมดังหวัง และจะประสบความสำเร็จในชีวิต และหากสหรัฐอเมริกาสามารถมีประธานาธิบดีคนเดียวกันได้ 3 สมัยติดต่อกัน ประธานาธิบดีบารัก โอบามา จะต้องได้รับเลือกอีกแน่นอน ซึ่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ หัวเราะพร้อมบอกว่าคงไม่ไหวแล้ว ขอกลับไปเลี้ยงลูกดีกว่า"
ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ยังชี้ไปที่ นางฮิลลารี คลินตัน ว่าจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาต่อจากท่าน ซึ่งหากนางฮิลลารีได้เป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐจริง อาตมาเชื่อว่าจะต้องเดินทางกลับมาที่วัดโพธิ์อีกอย่างแน่นอน
อย่าง ไรก็ตาม หากสังเกตจะเห็นว่า การมาเยือนเมืองไทยของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ในครั้งนี้ ได้ให้ความสำคัญกับประเทศครบทั้ง 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์"
ขณะเดียวกัน พระสุธีธรรมานุวัตรยังกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา และนางฮิลลารี คลินตัน ต่างชมว่าวัดสวยงามมาก และให้ความสนใจการใช้ชีวิตของพระสงฆ์ด้วย ที่สำคัญแม้ว่า ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ จะนับถือศาสนาคริสต์ แต่ประเทศไทยมีคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ จึงเลือกเดินทางมาเยี่ยมชมวัดทางพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นการให้เกียรติประเทศไทย
พระสุธีธรรมานุวัตรกล่าว อีกว่า ในการนี้นายโอบามาได้มอบของที่ระลึก 3 อย่างให้กับทางวัดโพธิ์ ได้แก่ ของขวัญกล่องใหญ่ 1 กล่อง แก้วสามใบอยู่ในกล่องที่เขียนว่า White House และสุดท้ายได้ลงนามเยี่ยมชมวัด และเซ็นชื่อไว้เป็นที่ระลึกด้วย ซึ่งทางวัดโพธิ์ได้มอบหนังสือเกี่ยวกับวัดโพธิ์เป็นภาษาอังกฤษแก่ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาด้วย
ส่วนของขวัญที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา มอบให้กับพระสุธีธรรมานุวัตรเป็นที่ระลึก คือ "หนังสือ The President"s House เล่ม 1-2"
"อาตมา รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำชื่อเสียงให้กับวัด อีกทั้งสร้างภาพลักษณ์ให้พระสงฆ์ที่สามารถโต้ตอบภาษาอังกฤษกับผู้นำระดับโลก ได้โดยไม่ใช้ล่าม พระสงฆ์ไทยมีอีกมากมายหลายรูปที่มีความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษ เพียงแต่อาตมาโชคดีที่ได้รับโอกาสสำคัญครั้งนี้"
พระสุธีธร รมานุวัตรกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ภายหลังนายบารัก โอบามา และนางฮิลลารี คลินตัน เข้าเยี่ยมชมวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทำให้วัดแห่งนี้คึกคักเป็นพิเศษ ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะวิหารพระนอนเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวมาก
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNakkxTVRFMU5RPT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHhNUzB5TlE9PQ==
พระสุธีธรรมานุวัตร กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับโอกาสสำคัญครั้งนี้ ว่าได้รับมอบหมายจากพระธรรมปัญญาบดี เจ้าอาวาส ให้เป็นผู้นำคณะของผู้นำสหรัฐเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของวัด เมื่อทราบว่าจะต้องทำหน้าที่สำคัญนี้ อาตมาได้เตรียมตัวข้อมูลของวัด ตามโปรแกรมที่คณะเจ้าหน้าที่สหรัฐแจ้งว่า ผู้นำสหรัฐมีเวลาเพียง 30 นาที ในการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในวัดโพธิ์ ประกอบด้วย พระวิหารโลกนาถ, พระอุโบสถ, วิหารพระนอน และเจดีย์ 4 รัชกาล
ทั้งนี้ สถานที่ที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา และนางฮิลลารี คลินตัน ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ คือ พระพุทธไสยาสน์ ซึ่งทั้งสองชมว่า เป็นพระพุทธรูปที่สวยงามมาก พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐยังบอกให้เจ้าหน้าที่นำรูปบูชาของพระพุทธไสยาสน์กลับ ไปฝากลูกสาวที่สหรัฐอเมริกาด้วย
"ระหว่างที่เข้าสักการะพระ พุทธไสยาสน์ อาตมาได้บอกกับประธานาธิบดีบารัก โอบามา ว่า พระพุทธรูปนี้ชาวไทยเชื่อกันว่าหากขอพรอะไรไปจะสมดังหวัง และจะประสบความสำเร็จในชีวิต และหากสหรัฐอเมริกาสามารถมีประธานาธิบดีคนเดียวกันได้ 3 สมัยติดต่อกัน ประธานาธิบดีบารัก โอบามา จะต้องได้รับเลือกอีกแน่นอน ซึ่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ หัวเราะพร้อมบอกว่าคงไม่ไหวแล้ว ขอกลับไปเลี้ยงลูกดีกว่า"
ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ยังชี้ไปที่ นางฮิลลารี คลินตัน ว่าจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาต่อจากท่าน ซึ่งหากนางฮิลลารีได้เป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐจริง อาตมาเชื่อว่าจะต้องเดินทางกลับมาที่วัดโพธิ์อีกอย่างแน่นอน
อย่าง ไรก็ตาม หากสังเกตจะเห็นว่า การมาเยือนเมืองไทยของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ในครั้งนี้ ได้ให้ความสำคัญกับประเทศครบทั้ง 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์"
ขณะเดียวกัน พระสุธีธรรมานุวัตรยังกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา และนางฮิลลารี คลินตัน ต่างชมว่าวัดสวยงามมาก และให้ความสนใจการใช้ชีวิตของพระสงฆ์ด้วย ที่สำคัญแม้ว่า ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ จะนับถือศาสนาคริสต์ แต่ประเทศไทยมีคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ จึงเลือกเดินทางมาเยี่ยมชมวัดทางพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นการให้เกียรติประเทศไทย
พระสุธีธรรมานุวัตรกล่าว อีกว่า ในการนี้นายโอบามาได้มอบของที่ระลึก 3 อย่างให้กับทางวัดโพธิ์ ได้แก่ ของขวัญกล่องใหญ่ 1 กล่อง แก้วสามใบอยู่ในกล่องที่เขียนว่า White House และสุดท้ายได้ลงนามเยี่ยมชมวัด และเซ็นชื่อไว้เป็นที่ระลึกด้วย ซึ่งทางวัดโพธิ์ได้มอบหนังสือเกี่ยวกับวัดโพธิ์เป็นภาษาอังกฤษแก่ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาด้วย
ส่วนของขวัญที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา มอบให้กับพระสุธีธรรมานุวัตรเป็นที่ระลึก คือ "หนังสือ The President"s House เล่ม 1-2"
"อาตมา รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำชื่อเสียงให้กับวัด อีกทั้งสร้างภาพลักษณ์ให้พระสงฆ์ที่สามารถโต้ตอบภาษาอังกฤษกับผู้นำระดับโลก ได้โดยไม่ใช้ล่าม พระสงฆ์ไทยมีอีกมากมายหลายรูปที่มีความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษ เพียงแต่อาตมาโชคดีที่ได้รับโอกาสสำคัญครั้งนี้"
พระสุธีธร รมานุวัตรกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ภายหลังนายบารัก โอบามา และนางฮิลลารี คลินตัน เข้าเยี่ยมชมวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทำให้วัดแห่งนี้คึกคักเป็นพิเศษ ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะวิหารพระนอนเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวมาก
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNakkxTVRFMU5RPT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHhNUzB5TlE9PQ==
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น